เพื่อนซี้เราคนนึง ชื่อ สมมติว่าซากาโมโต้ ชื่อจริงว่า โชคชัย ชื่อเล่นชื่อ จั๊วะ ที่บ้านเรียกมันว่า ไบ๋
มันเคยพูดไว้ว่า โปรแกรมเมอร์ต้องมีซิกแพค
สรุปคร่าวๆคือ ภาพลักษณ์ที่คนมองโปรแกรมเมอร์เห็น เป็นไอ้เชี่ยอ้วนกับไอ้เชี่ยแว่น
ไอ้จั๊วะมันอยากให้ภาพลักษณ์โปรแกรมเมอร์มันเท่กว่านี้
เลยรณรงค์ให้โปรแกรมเมอร์มีซิกแพคกันอะไรงั้น
ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ (http://www.youtube.com/watch?v=XfTu6fBCsqI)
จากการใช้ชีวิตแต่งงานมาหลายปีและเจอเพื่อนโปรแกรมเมอร์ในหมู่คนทั่วไปอีกหลายคน ทำให้เราได้ข้อคิดเพิ่มมาอีกอันนึง คือ
โปรแกรมเมอร์ต้องรู้จักหุบปาก
คือ วันๆโปรแกรมเมอร์คุยกับคอมพิวเตอร์ซะส่วนใหญ่
การพูดคุยที่ว่าคือการเขียนโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหาที่ต้องการ
เครื่องคอมอะ มันโง่ มันแค่คิดอะไรซ้ำๆได้เร็วกว่าเราหลายล้านเท่า แต่มันไม่มีความคิดสร้างสรรค์
อีกอย่างคอมพิวเตอร์อาจจะทำอะไรสำคัญ ถ้าเราสั่งให้มันเพิ่มโอโซนให้โลก แต่มันเข้าใจผิดว่าให้ปล่อยระเบิดนิวเคลียร์ ก็คงไม่ค่อยสวยงามเท่าไร
การคุยกับเครื่องคอมเลยจะต้องเป็นอะไรที่เจาะจงมาก ห้ามคลุมเครือ
โปรแกรมเมอร์จึงเป็นคนที่คุ้นเคยกับอะไรที่มันเจาะจง ไม่คลุมเครือ ไม่มีช่องโหว่
เมื่อโปรแกรมเมอร์เอานิสัยนี้มาใช้กับคน ก็หงายเงิบสิ
คนทั่วไปเค้าพูดกันให้คนฟัง
คนฉลาดกว่าคอมพิวเตอร์ จึงควรจะตีความหรืออ่านอารมณ์ได้ดีกว่า
แต่โปรแกรมเมอร์กลับคิดว่า คนทั่วไปเค้าพูดให้คอมพิวเตอร์ฟังเหมือนกัน ต้องคอยแก้ เพราะเดี๋ยวโปรแกรมจะรันไม่ได้
ยกตัวอย่างบทสนทนาระหว่าง ตัวละครสมมติ มาริโอ้ เมาเร่อ กับ เคน ธีรเดช (เป็นชื่อไทยสมมติที่คิดได้เมื่อกี๊)
มาริโอ้กับเคนเป็นเพื่อนกัน แต่มาริโอ้จบนิเทศ เคนจบวิทย์คอม
ตัวอย่าง 1 มาริโอ้ปล่อยมุข
มาริโอ้: 1+1 ได้ 1 เพราะ ทราย 1 กองรวมกับทรายอีก 1 กอง ได้ทราย 1 กองอยู่ดี
เคน: นั่นก็เพราะ + ในที่นี้ไม่ได้ใช้ + เชิงคณิตศาสตร์ แต่ใช้เป็นสัญลักษณ์ของการรวมกองทรายเข้าด้วยกัน
ตัวอย่าง 2 มาริโอ้ต้องการระบายอารมณ์
มาริโอ้: โห รถคันนั้นปาดโคตรทุเรศเลย เซ็งเป็ด
เคน: รู้สึกมันหลบรถอีกคันนึงมา ไม่งั้นมันก็ชน
ตัวอย่าง 3 มาริโอ้แบ่งปันข้อคิดความรู้
มาริโอ้: ในการตั้งบริษัท เราต้องเริ่มจากเล็กๆ แล้วค่อยๆขยาย
เคน: หลักนี้มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2500 แล้วโดยคนชื่อ โธมัส เค้าเรียกกฏนี้ว่า กฏแห่งการ… (อะไรก็ว่าไป)
ถ้าเรามีเพื่อนแบบเคน เราแอบกระโดดถีบมันในใจ
ถ้าเคนมันคิดซักนิดนึงมันจะรู้ว่า
มาริโอ้ไม่ได้คุยกับเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ไม่ต้องไปแก้มัน
มาริโอ้คุยเพราะมีจุดประสงค์ทางสังคมอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ต้องการให้คนหัวเราะ ต้องการให้คนรับฟัง หรือต้องการแบ่งอะไรดีๆให้คนอื่น
เคนเป็นคน
ควรที่จะรู้จักหุบปาก และลองคิดดูดีๆว่าที่มาริโอ้เล่านั่นเนื้อหาจริงๆที่อยู่เบื้องหลังสิ่งที่พูดออกมามันคืออะไร
สำหรับคนที่คบโปรแกรมเมอร์ด้วยกัน ดีใจด้วย
โปรแกรมเมอร์ด้วยกันคงเข้าใจกันบ้างไม่มากก็น้อย
แต่โปรแกรมเมอร์ก็ยังเป็นคนอยู่ ระวังให้ดีละ
ส่วนเรา ยอมรับว่าเราทำอย่างนี้กับเดียร์มาเยอะเหมือนกัน
ทุกวันนี้เราก็ฝึกที่จะหุบปากและฟัง และพยายามพูดให้เหมือนคนปกติมากขึ้น
สำหรับคนที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์โปรดยกโทษให้พวกเราด้วยนะแคร้บ
นู๋โบ๊ท อิน วันเดอร์แลนด์
July 20, 2013
ทำไมไม่เขียนว่าคนทั่วไปควรหัดเลิกคิดไปเองบ้าง
หลายครั้งที่ปกมพูด A … พี่แกตีความไป B C D … ทั้งที่เราก็แค่ต้องการบอกว่า A
LikeLike
amchiclet
July 21, 2013
ไอเดียเยี่ยมมากกกกเลยครับ เป็นปัญหาโลกแตกเลย
สาเหตุง่ายๆเลย คือ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองยังไม่มีความเห็นอะไรที่จะเพิ่มค่าให้สังคมเท่าไรในเรื่องการลดปัญหานี้ครับ 😀
LikeLike
Rachan Neamprasert
July 22, 2013
ตอบได้โดนใจมากครับ
LikeLike
iii
July 21, 2013
จากประสบการณ์ของผม ไม่จำเป็นเลยที่คุณจะต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือ ผ่านหลักสูตรวิทย์คอมแล้วจะต้องพูดหรือมีความคิดแบบนั้น และความคิดแบบที่คุณพยายามจะบอกว่าคนที่เป็นโปรแกรมเมอร์ทุกคนจะต้องคิดแบบนั้น สำหรับผม การพูดจาแบบเคน มันก็แค่พวกอ่อนต่อโลก พยามยามจะแสดงออกความคิดของตัวเองออกมาโดยไม่ดูบริบทรอบข้าง ไม่ดูอารมณ์ของคู่สนทนาหรือสถานการณ์รอบข้าง คุณ(เคน)คิดหรอว่ามาริโอเขาไม่ได้เคยคิดแบบคุณ(เคน) เปล่าเลย เขาอาจจะคิด แต่ฉลาดเลือกที่จะแสดงออกในสิ่งเหมาะสมกับกาละเทศะ และสถานการณ์ต่างหากล่ะ
LikeLike
amchiclet
July 21, 2013
คุณ iii แม่นแล้วครับ ประเด็นหลักเลย!
ผมและคุณเคนทั้งหลายควรจะฉลาดแสดงออกมากขึ้นครับ (รวมไปถึงภาษาที่ใช้ในโพสนี้ด้วย) 😀
LikeLike
iii
July 21, 2013
แล้วคุณเอาอะไรมาตัดสินล่ะครับว่าผมควรจะฉลาดในการแสดงออกมาขึ้น บางคนก็อาจจะชอบคนพูดตรงๆ บางคนอาจจะชอบคนพูดอ้อมๆ และมันก็ไม่เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์หรือไม่โปรแกรมเมอร์อยู่ดีครับ
LikeLike
amchiclet
July 21, 2013
ผมไม่ตัดสินคุณครับ ผมตัดสินคุณเคน ใน blog
ถ้าทำให้เข้าใจว่าผมตัดสินคุณ iii ผมต้องขออภัยมากๆเลยครับ
และถูกต้องครับ ไม่เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์หรือไม่โปรแกรมเมอร์ครับ
ผมใช้คำว่าโปรแกรมเมอร์เป็นจุดเริ่มต้นทำให้คนที่เป็นโปรแกรมเมอร์ด้วยกันเก็ตประเด็นครับ
อีกครั้งนะครับ ขอโทษมากๆเลยถ้าผมฟังดูเหมือนตัดสินว่า โปรแกรมเมอร์ทุกคนเป็นอย่างเคน หรือฟังดูเหมือนตัดสินว่าคนเป็นมาริโอ้ไม่รู้จักคิด
LikeLike
yuhankung
July 21, 2013
Reblogged this on yuhankung and commented:
ชอบบทความนี้มากจริงๆ คือมันใช่เลยแฮะ แต่บางทีเราก็อยากให้มนุษยกลายเป็นโปรแกรมเมอร์มากกว่าแฮะ
LikeLike
analogping
July 21, 2013
ตรงดีครับสังเกตุแล้วหลาย ๆ คนจะขาดทักษะทางการพูดคุยลงเมื่ออยู่หน้าคอมนาน ๆ และดูเหมือนว่าทุกอย่างต้องมีเหตุผลในตัวคำตอบและการกระทำซะด้วยสิ
ผมก็เป็น …
LikeLike
analogping
July 21, 2013
Reblogged this on Neet Today and commented:
อืม …
LikeLike
Knot P.
July 21, 2013
เจ็บบบบบ 🙂
But the world would be a MUCHHHHH better place if everyone leaves their (negative) emotions behind 😛
Thanks for sharing!
LikeLike
amchiclet
July 21, 2013
เห็นด้วยที่สุด! เรื่องคิดลบเราก็พยายามแก้มาตลอดเหมือนกัน 😀
LikeLike
Rachan Neamprasert
July 22, 2013
ความคิดแบบโปรแกรมเมอ ตรงประเด็น ไม่มีอคติ แต่คนธรรมดา มากด้วยอารมณ์ ไม่ชัดเจน และเต็มไปด้วยอคติส่วนตัว ส่วนตัวผม เพื่อนที่เป้นโปรแกรมเมอส่วนใหญ่จะไว้ใจได้
LikeLike
amchiclet
July 22, 2013
T_T ซึ้งๆๆๆๆ
ดีใจมากกกกกกกกกกที่มีคนคิดแบบคุณ rachan ครับ
LikeLike