2-3 ปีที่ผ่านมา ก่อนกลับไทย เรากับเดียร์ก็มักจะไปแวะญี่ปุ่นระหว่างต่อเครื่อง
ปกติเราจะแค่อัพรูปบนเฟส แต่รอบนี้ว่าจะลองเขียน blog ดูจะได้มีรายละเอียดขึ้นหน่อย
เวลากลับมาอ่านอีก 5 ปีให้หลัง จะได้จำได้มากขึ้น
ปีนี้ก็ไม่พลาดใช้งานสายการบิน ANA เหมือนเดิม
ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาก็เลยบินเหมือนเดิม
ก็แวะ 2 คืน 3 วัน
ทาง ANA เค้าโอเค ไม่ต้องเอากระเป๋าใหญ่ออกมาถ้าแวะไม่เกิน 72 ชั่วโมง
เราก็ไปเที่ยวด้วยกระเป๋าใบเล็กกับเป้พอ
รอบนี้ลงเครื่องมาไม่ต้องแวะแลกตังค์เพราะแลกเตรียมไว้ตั้งแต่อเมริกาแล้ว
ตรงไปที่คิวซื้อตั๋วรถบัสเข้าโตเกียว
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีกว่าจะถึงเมืองชื่อ ginza
ปีก่อนๆเราเที่ยว shinjuku มาตลอด
รอบนี้ลองเที่ยว ginza บ้างเพราะได้ข่าวว่าสนุก มีห้างกับของกิน เดินง่าย
ซึ่งเรามาญี่ปุ่น หลักๆคือ กิน + ซื้อของน่ารักๆกุ๊กกิ๊กๆอยู่แล้ว
ลงจากรถบัสก็เดินไปเก็บกระเป๋าที่โรงแรมก่อน
ก็เดินผ่านหอนาฬิกาที่ทุกคนต้องหยุดถ่ายรูปกัน เราก็เลยหยุดถ่ายรูป
หลังจากถึงโรงแรมเก็บของเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย
งานแรกคือกินข้าวเย็น
อากาศที่นั่นประมาณ 0-10 องศาเซลเซียส
ด้วยความโง่ก็เดินไปร้านอาหารบนถนน แทนที่จะทะลุใต้ดินอุ่นๆ
หรือแทนที่จะนั่งรถใต้ดินไปขึ้นใกล้ๆร้าน
ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเดินหนาวๆไปที่ร้าน
มื้อแรกก็กิน ichiran เหมือนเดิม
ไม่พอ อยากลองซูชิเวียน เลยแวะเข้าร้านมั่วๆร้านนึง
หลังจากอิ่มแล้ว เดินกลับค่อยสนุกหน่อย
ถนนแถวนี้มีประดับต้นคริสมาสอยู่
รวมไปถึงมีฉายลงพื้นสวยๆ
ก่อนกลับโรงแรมก็แวะร้านเทมปุระในตำนานที่มีคนแนะนำไว้
ไปจองที่นั่งสำหรับกินวันพรุ่งนี้
จบวัน สลบ
วันต่อมาก็กินบุฟเฟ่อาหารเช้าโรงแรมตั้งแต่มันเปิด
ถ่ายรูปมาแค่มะเขือเทศ รูปอาหารถ่ายออกมาไม่ค่อยน่าอร่อยเท่าไร
เนื่องจากนั่งบัสขามา เรามีอาการคลื่นไส้ไม่สบายตัว
รวมทั้งใช้เวลาเกินชั่วโมง เราเลยลองหาวิธีอื่นกลับสนามบิน
พบว่ามันมีรถไฟ narita express ซึ่งใช้เวลา 45 นาที (หลังจากได้นั่งรถไฟแล้ว) เท่านั้น
เราเลยไปสำรวจว่ามันต้องไปขึ้นตรงไหน
สรุปว่าต้องไปขึ้นที่สถานีที่ชื่อว่า ueno ก็เลยนั่งรถใต้ดินไป
เจอของ randomๆ เช่น
ตัวละครที่เล่น misaka จากหนัง attack on titan ดูเหมือนว่าช่วงนี้กำลังดัง
เห็นตามป้ายโฆษณา
หรือเจอโฆษณาหมาใส่หมวก
ไปถึง ueno ก็พบว่าเป็นเมืองที่มีตลาดขายของสดอยู่
หลังจากสำรวจเสร็จ เราก็กลับมา ginza เหมือนเดิม
เพื่อมาร้านเทมปุระในตำนานที่จองไว้เมื่อคืน
แต่ก่อนถึงเวลาที่เรานัดไว้ ก็หิวกันก่อนเลยแวะร้านมั่วๆอีกหนึ่งร้าน
รวมไปถึงแวะร้านขายของเล่นด้วย
จนถึงเวลาที่นัดร้านเทมปุระไว้ ก็ไปนั่งกิน
อร่อยมาก เป็นเทมปุระที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา
ชื่อร้าน ten-ichi
จากนั้นก็ได้เวลาเดินเล่น
แวะกิน waffle
ไปร้านเครื่องเขียนที่ชื่อ itoya เป็นร้านเครื่องเขียนที่มีอย่างน้อย 8 ชั้น
บันไดเลื่อนมีป้ายห้ามทุกอย่างในโลก
ถึงชั้น 8 แล้วคร้าฟ
แวะร้านกาแฟร้านนึงที่คนเข้าเยอะมาก
เห็นเค้าขายไอ้ mont blanc ก็เลยสั่งมา
เนื่องจากไม่เคยรู้ว่า mont blanc คืออะไร
เลยคิดว่ารสชาติจะเหมือนพาสต้า
กินเข้าไปถึงได้รู้ว่าเป็น ของหวาน ทำมาจากเกาลัด
ตอนค่ำกลับมาแวะพักที่โรงแรมแป๊ปนึงให้หายเมื่อยขา
จากนั้นก็ออกไป sony building ที่มีของ sony ขายประมาณ 5 ชั้น
ข้างในก็มีแต่ electronics กับกล้องถ่ายรูป
เลยถ่ายมาแต่เมืองจำลอง ที่เค้าเอาไว้ให้ลองกล้อง
ถึงตอนนี้ก็หิวอีกรอบ เลยแวะกิน spam burger ที่ร้าน freshness burger
เดินเล่นอีกนิด
ต่อด้วย ichiran ราเมงอีกหนึ่งรอบ
ก่อนกลับโรงแรม ก็แวะดูไฟคริสมาสนิดนึง
ปีนี้ได้กลับช่วงคริสมาสก็แหล่มเลย
ตอนกลางคืนพี่แอนกับโยชิก็แวะมาเจอกัน
พี่แอนกำลังจะไปเยี่ยมครอบครัวโยชิอยู่พอดี
จัดไปหลายอยู่
วันต่อมาก็แยกย้าย พี่แอนต้องเดินทางตอนเช้า
หลังจากแยกย้ายกัน เรากับเดียร์ก็ไปลองร้านมิชลิน
ไปก่อนร้านเปิดประมาณ 30 นาที ก็มีแถวเรียบร้อยแล้ว
กว่าจะได้กินต้องหลังร้านเปิด 15 นาที
รสชาติไม่ค่อยใช่แนวๆ แต่ถือว่าได้ไปลองละ
จากนั้นก็ถึงเวลาเตรียมตัวกลับสนามบิน
ก่อนรถไฟออก ก็แวะร้านขายขนมปังแถวๆสถานี ueno
สุดท้ายก็นั่งรถไฟกลับ narita
สะดวกมากกกก วันหลังจะนั่งรถไฟกลับอีก
จบทริป
แล้วเจอกันอีกนะญี่ปุ่น
February 19th, 2016 → 1:43 am
[…] ปลายเทอมก็กลับไทย แต่ก่อนกลับก็ได้แวะญี่ปุ่น อ่านเรื่องราวญี่ปุ่นได้ที่ีนี่ […]
LikeLike