ชีวิตป.เอกเทอมสิบ

Posted on December 29, 2017

0


อ่านเรื่องของเทอมที่แล้วได้ที่นี่
(https://amchiclet.wordpress.com/2016/12/15/%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%9B-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%94/)

สำหรับ ป.เอก เทอม 10
คือเทอม fall (กันยา – ธันวา) ของปี 2559

เทอมนี้มักจะสนุกเพราะว่า อากาศเริ่มดี เด็กใหม่เข้ามา และทุกคนได้พักผ่อนจากช่วงซัมเมอร์

เรามานั่งดูรูป อ่านอีเมลย้อนหลัง รู้สึกว่า เป็นเทอมที่ทำอะไรเยอะมากกกกกก
ไล่ทีละเรื่องละกันนะ


การเรียนการวิจัย


เทอมนี้ไม่มีเรียน
คือ เก็บหน่วยกิตครบละ เหลือแค่การทำวิจัย
หรือรอคอร์สที่น่าสนใจมากๆ แบบ เจาะจง หรือ หาเรียนฟรี online ไม่ได้

เป็นเทอมแรกที่ทำวิจัยล้วนๆ

อวดก่อน เทอมนี้ห้องออฟฟิสมุมตึก

IMG_4161

ก็ทำวิจัยต่อจากเทอมที่แล้วนะ
เรื่องการทำให้โปรแกรมประมวลข้อมูลเยอะๆ ทำงานเร็วขึ้น
ศัพท์เทคนิคเรียกประมาณว่า map reduce program optimization


ถอยหลังนิดนึง
เหมือนว่าโพสที่แล้วไม่ได้เล่า

คือ งานที่เราทำมันต้องใช้คอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องที่ทำงานด้วยกัน
(เรียกว่า cluster)
แล้วถ้าซื้อ cluster เอง มันก็จะแพง เพราะมันก็คือการซื้อคอมหลายๆเครื่องอะ

เราเลยไปสมัคร “ขอทุน” กับบริษัทที่ชื่อ databricks
ซึ่งผู้ก่อตั้งบริษัท คือ คนที่เขียนโปรแกรมอันหนึ่งที่ค่อนข้างดังชื่อว่า apache spark

มีเงื่อนไขว่า ถ้าได้ตีพิมพ์เปเปอร์วิจัย
ให้ใส่ชื่อบริษัทโฆษณาให้เค้านิดหน่อย อะไรงี้

เค้าก็ให้เราใช้ cluster มาเรื่อยๆนะ
แต่ตอนซัมเมอร์ เราหายไป 3 เดือน
เค้าเลยคิดว่า เราไม่ใช้
เค้าเลย deactivate account
ก็คือ “กุไม่ให้มึงใช้ละ”
-_____-”

Screen Shot 2017-12-27 at 11.01.43 PM

สุดท้ายก็ซมซานมาหาทางออกจนได้
ว่า เดวิด (อาจารย์ที่ปรึกษา) ก็มีโควตา
คอมพิวเตอร์ 10 เครื่องของคณะให้ใช้
แค่ว่าติดตั้งอะไรยากหน่อย
แต่สุดท้ายก็ใช้ทำวิจัยได้


เอาหละ กลับมาเรื่องตัวงานวิจัย
หน้าที่เราคือเขียน compiler มาทำให้โปรแกรมที่เขียนสำหรับ apache spark เร็วขึ้น
(สุดท้ายเป้าหมาย ก็คือ พยายามทำให้บริษัทประมวลผลเยอะๆได้เร็วขึ้น แค่นั้นแหละ)

เทอมนี้จะเน้นการขายนะ

ก็คือ เวลาจะทำงานวิจัยอะไรซักอย่าง
มันต้องทำออกมาเพื่อแก้ปัญหาอะไรซักอย่าง
ถ้างานวิจัยของเรา พยายามทำให้บริษัทประมวลผลเยอะๆได้เร็วขึ้น
เราต้องโฆษณาด้วยอะไรซักอย่าง ที่ทำให้ คนที่มาอ่านงานวิจัยเรารู้สึกว่า มันมีประโยชน์

เทอมนี้ก็จะเป็นการพยายามหาโปรแกรมที่คนเค้าเอามาประมวลข้อมูลเยอะๆ
เราจะได้โชว์ว่า เออเนี่ย งานวิจัยเรา ทำให้โปรแกรมพวกนี้เร็วขึ้นจริงๆนะ

ตอนใกล้ๆจบเทอม ก็พยายามเขียนเปเปอร์ออกมาอันนึง
แต่เหมือนว่ามันกว้างไปหน่อย
เดวิด อยากให้เจาะลึกกว่านี้
เลยไม่ได้ส่งเปเปอร์ไปพยายามตีพิมพ์ที่ไหน
ไว้ทำเทอมหน้าต่อ


เป็น seminar organizer


นอกจากเรื่องงานวิจัยแล้ว
มีวันนึง เดวิด เดินเข้ามาในห้องออฟฟิส
แล้วบอกว่า ช่วยเป็น organizer ให้ compiler seminar ที่มีอาทิตย์ละครั้งได้ไหม
แล้วสัปดาห์แรก เรายังหาคนไม่ได้ ช่วย present หน่อยนะ

มาทีเดียวก็มาเป็นชุด

แต่เค้าถามดี เราก็อยากช่วย เลยตอบตกลงไป
เทอมนี้เราเลยได้เป็น organizer สำหรับ compiler seminar

กิจกรรมของไอ้ compiler seminar นี้ก็คือ ทุกวันพุธ
เราจะต้องหา speaker มาคุยมา present อะไรที่เป็นเกี่ยวกับงานวิจัยด้าน compiler เป็นเวลา 1 ชั่วโมง

สรุปว่า รอดนะ
สุดท้ายก็จะเป็นสลับๆกัน ระหว่าง อาจารย์ให้ mini lecture
หรือว่า เพื่อนที่กำลังจะส่งเปเปอร์ไปตีพิมพ์ ได้มาคุยเรื่องงานตัวเอง
บางครั้งก็มี professor หรือนักเรียนจากมหาลัยอื่นมาเยี่ยม

แล้วก็มีสัปดาห์นึงที่พิเศษ
จะให้เด็ก ป.เอก ทุกชั้นปี ที่ทำงานวิจัยใกล้เคียงกัน
ตั้งแต่ programming language, compiler, software engineer, formal method หรือ architecture
มาคุยเรื่องงานวิจัยของตัวเองคนละ 2-5 นาที สั้นๆ
เหมือนเป็นกิจกรรมให้คนรู้จักกันนะ

ตอนจบก็เลี้ยงพิซซ่า แล้วก็ให้ professor หน้าใหม่คนนึง หน้าเก่าคนนึงออกมาหน้าห้อง
แล้วก็โยน slide ที่ random ที่หาได้ในอินเตอร์เน็ต ให้เค้า present สดเดี๋ยวนั้น
ก็ฮาดี เหมือนแบบ ให้ professor ไปทำเรื่องอายๆไร้สาระ จะได้เป็นกันเองมากขึ้น

ตอนจบก็มีให้ professor หลายๆคนมาตอบคำถามเกี่ยวกับการเรียน ป.เอก
ซึ่งเรื่องที่มักจะทำให้เด็ก ป.เอก รู้สึกดีขึ้น
ก็คือ การที่ได้รู้ว่า อาจารย์ที่เทพชิบหาย
ก็ผ่านการเป็นเด็ก ป.เอก กระจอกๆ ที่ดิ้นรนและมีความเครียดเหมือนเราเนี่ยแหละ


เด็กจบ


มึวันนึงเดวิด อีเมลมาบอกว่า ใครว่างเที่ยงวันนี้บ้าง
เราจะไปเลี้ยงข้าวคนที่จะจบเทอมนี้กัน

สรุปคือ มีเด็ก ป.เอก ของเดวิด กำลังจะจบอีกคนนึง

ตอนกินข้าวก็คุยๆกัน
ก็ได้ความว่า รุ่นเราน่าจะเป็นเด็ก ป.เอก รุ่นสุดท้ายของเดวิดแล้ว

ก็จริงนะ เค้าน่าจะอายุ 60 กว่าแล้ว
เค้ายังมาคอยคุมแลบวิจัย ก็น่าจะใกล้พอแล้วแหละ

ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่นะ
ที่แน่ๆ ข้อดีคือ เราจะได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากแต่ละคนจบไป
ข้อเสีย คือ เราจะได้รับความสนใจมากขึ้นจนเกินไป กลายเป็นความกดดันให้จบ

แต่เท่าที่เรารู้จักเดวิดมาหลายปี
เค้าเป็นคนใจดี ที่ผ่านชีวิตมาเยอะ
เค้าดูเป็นคนที่ไม่ได้ผลประโยชน์จากนักเรียนเท่าไร
(professor บางคนต้องการให้นักเรียนช่วยตีพิมพ์เปเปอร์เยอะๆ)
ดูเค้าน่าจะให้เราทำงานด้วยความเร็วที่เราถนัดและทำได้ดีที่สุด
โดยไม่กดดันอะนะ


ความกระจอกประจำเทอม


เทอมนี้มีเรื่องความกระจอกมาเล่าสองเรื่อง
เรื่องแรก คือ จำไอ้บริษัท databricks ที่พูดถึงข้างบนได้มะ

นั่นหละ เค้าทำงานตรงกับงานวิจัยเรา
เราก็เลยลองสมัครฝึกงานดู ตอนที่เค้ามา career fair

เค้าก็เรียก interview นะ เหยดดดด
สรุปว่า ตก interview ผ่านโทรศัพท์รอบแรก

คำถามไม่ได้ยากมาก ตอบได้ถูกต้องด้วย
แต่ปัญหาคิดว่า เราคิดนานเกินแล้วตอบช้าไปหน่อย
ถ้าเตรียมสัมภาษณ์ดีๆน่าจะมีโอกาสได้อยู่

แหะๆ เขิลจัง เลยเอามาอวด

เรื่องที่สองเราว่าเจ๋งกว่า

ดาโก้เป็น professor ที่เราทำงานด้วยตอนเทอมแรก
แล้วปีนี้มี professor อีกคนนึงเข้ามาใหม่พอดี ทำวิจัยด้าน machine learning ชื่อ มาทุส
ซึ่งแบบคาบเกี่ยวกับโปรเจคเรานิดดดดดนึง แต่อาจจะสนใจทำอะไรคล้ายๆกัน

ดาโก้แนะนำให้เราไปทำความรู้จักกับมาทุสไว้
เราก็นัดเร็วๆ กะจะไปแนะนำตัวอะไรงี้

ปรากฏเค้าเริ่มถามงานวิจัย
เราก็ตอบไปว่า เออ เนี่ยทำงี้ๆ อยู่
คิดว่าถ้าเราลองเอางานเราเข้าไปช่วยให้โปรแกรม machine learning เร็วขึ้นได้
น่าจะเป็นจุดขายเปเปอร์ได้ดีขึ้น

โดนเบรคทันที
แล้วเค้าถามว่า จะทำวิจัยทำไมถ้าเป้าหมายแค่จะตีพิมพ์เปเปอร์
ทำไม่ถึงไม่มีความอยากแก้ปัญหายากๆอะไรให้มนุษย์อะไรงี้เลยเหรอ

ทีนี้เราเป็นคนตรงไปตรงมาไง
เราก็เลยบอกเค้าว่า ตอนนี้ค่อนข้างอยากจบแล้ว
ได้รสชาติของงานวิจัยแล้ว รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็เลยอยากจบแล้วก็พร้อมออกไปใช้ชีวิตต่อ
การทำวิจัยเลยอยากเน้นอะไรที่ทำให้จบเร็วขึ้น

เลยโดนโปรเฟสเซอร์คนนั้น ใส่อยู่พักนึง
อารมณ์แบบ ถ้าไม่ได้ชอบ ป.เอก ขนาดนั้น ทำไมถึงไม่ลาออกละ
มันน่าจะดีกับชีวิตกว่านะ

เอาจริงๆ เค้าไม่ได้ด่านะ
แต่เค้าทำให้เรารู้สึกว่า เราเป็นเด็ก ป.เอก ที่เป้าหมายไม่ดีพออะนะ
แล้วก็อุดมการณ์ไม่กว้างพอ อะไรงี้

แต่ก็ยอมรับนะ ไม่แก้ตัวจริงๆ แหะๆ

เราคิดว่า เมื่อเร็วๆนี้ เรารู้ตัวแล้วแหละ
ว่าเราได้ความสุขจากการอยู่กับคนรอบข้างที่รักมากกว่าการทำอะไรที่รักแล้วแหละ
(อ่านเพิ่มได้ที่นี่)

เราก็เลยรู้สึกว่า ป.เอก อะ เออ มันท้าทาย มันสนุกดี
อยากเรียนให้จบ อยากผ่านตรงนี้ไป
อยากรู้ว่าสมองเรามันไปได้ไกลแค่ไหน

แต่อีกด้านนึงก็รู้ว่า ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรขึ้นมาให้เราเรียนไม่จบ
เราพร้อมจะดำเนินชีวิตต่อได้สบายๆเลยแหละ
เพราะ มันไม่ได้สำคัญอันดับต้นๆอะนะ


เรื่องยอดประจำเทอม


จบเรื่องกากละ ตอนนี้ความมั่นใจติดลบ
ขอเปลี่ยนเป็นเรื่องยอดบ้าง

เทอมนี้มีเรื่องยอดสองเรื่องเหมือนกัน

อย่างแรกคือ
งานวิจัยเรื่องแรกที่เราทำตั้งแต่เทอม 3 (แต่ว่าเลิกทำและเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นตอนเทอม 7)
ได้มีเปเปอร์ตีพิมพ์แล้ว

17800313_10154477665791989_1663204131680858088_n

สรุปไอ้ที่ทำตอนนั้น ก็ไม่ได้เสียเวลาเปล่าสินะ เยสสสส

เรื่องยอด อย่างที่สองคือ
google ให้กลับไปเป็นเด็กฝึกงานรอบที่สาม

IMG_1869

เย่
รอบนี้ขอทำงานไป 14 สัปดาห์เลย (ปกติ 12 สัปดาห์)

ถ้ารอบนี้เสร็จเราก็อ้างว่าเคยทำงาน google ได้ 9 เดือนแล้วสินะ
(แต่ก็เป็นแค่เด็กฝึกงานเฉยๆอะนะ)


กิจกรรม


กิจกรรมใหญ่ๆมีหลายเรื่องอยู่
แต่ขอขึ้นต้นด้วยการคุมทีมเตะบอล

IMG_8279

คือ เราก็เตะทุกเทอมนะ มันเป็นแบบนักเรียนตั้งทีมกันเอง
แล้วไปแข่งกันระหว่างทีม
ซึ่งเราก็ลงประเภทผสมชายหญิงหลักๆ เพราะ มันเล่นกันไม่แรงดี
เทอมนี้เผอิญเราเป็นคนลงชื่อทีมไป เค้าเลยให้เราเป็นกัปตันทีมโดยอัตโนมัติ
ก็เลยได้ทักษะ การเกณฑ์คนไปเตะบอลเพิ่มขึ้นนิดนึง

พูดซะเว่อร์ จริงๆ คือ การคอยดูว่าวันไหนทีมเหย้าทีมเยือน
ดูว่าใครมาได้มาไม่ได้ แล้วก็ตามตัวผู้เล่น มีวางตำแหน่งนิดหน่อย
แต่เอาน่า ได้ชื่อว่า กัปตัน ภูมิใจเล็กๆละ

สรุปว่ากากนะ ได้ที่ 3 จาก 4 ทีม
ตกรอบคัดเลือกมั้งถ้าจำไม่ผิด
แต่สนุกมาก เพราะ ทีมนี้เป็นมิตรทุกคน

Screen Shot 2017-12-28 at 9.12.24 AM

ไม่จบนะเว่ย
เทอมนี้ได้ติวน้องคนไทยคนนึงเตะบอลด้วย
เนื่องจากทีมขาดคน เราก็พยายามหาคนเล่น
แล้วน้องเค้าสนใจเล่นแต่เล่นไม่เป็น
เลยได้เป็นครูพละด้วยงานนี้

เอาหละะะะะะะะะะะะะะะะ

ที่เหลือ เทอมนี้ ก็เหมือนเดิม
คือการใช้เวลากับคนรอบข้างให้คุ้ม
โดยเฉพาะกับคนดีๆ

และที่สำคัญ นี่ปีสี่แล้ว
แปลว่าน้องป.ตรี ที่เข้ามาปีเดียวกันจะจบปีนี้แล้ว

เทอมนี้ก็จะมีกิจกรรมเจอกันที่ร้านชื่อ murphy ทุกวันพุธ
ใครมาก็ได้ มานั่งทำความรู้จักกันระหว่างคนไทยเฉยๆ

แถวมหาลัยมีงานข้าวโพด

IMG_8284

ปีนี้คนเตะบอลเยอะใช้ได้

งานวันเกิดเพื่อนก็จัดไป

งาน potluck ประจำเทอม ปีนี้ทำหมูแดง
(จริงๆคือ ให้น้องที่ทำหมูแดงเก่ง ใช้ห้องครัวเรา แล้วอ้างว่าเราช่วยทำด้วย)

มีงานคนไทยขายหมูปิ้ง

มีน้องคนนึง apartment มีเครื่องย่างบาร์บีคิว
เค้าก็เปิดให้ไปทำข้าวกินกัน

อาหารหลักของเทอมนี้

บอร์ดเกม

LND_67A518C9-3AD5-4EC2-B9CB-3DDCAC30D627

ฉลอง thanksgiving

ไปเที่ยวอุทยาน

DSC04697

ไปดูใบไม้เปลี่ยนสี

IMG_0954

ไปถ่ายรูปเล่นตอนหิมะตกครั้งแรก

เล่นเกม resident evil กับน้องสนิท

IMG_2078

ไปดูไฟคริสมาสที่ชิคาโก

อำลาคนเรียนจบเทอมนี้

ไปงานแต่งงานแขก

IMG_0704-ANIMATION

เที่ยว wisconsin

ช่วยเพื่อนย้ายของ

IMG_9382

เพื่อนมาโฆษณาบริษัทที่ career fair

IMG_9801

หรือทำอะไรซักอย่างที่จำโอกาสไม่ได้

พี่สาวมาเยี่ยมมหาลัย

วัน thanksgiving ไปคาลิ เจอเดียร์ เจอเพื่อนๆ เจอพี่สาว

ซื้อต้นคริสมาสของจริงด้วยปีนี้

IMG_2787

ทำอาหารวันคริสมาส

IMG_4438

หลานมาเยี่ยมที่มหาลัย

IMG_4507.jpg

ฉลองคริสมาส

และปลายปีก็กลับไทย
ไปเจอครอบครัว

เจอเพื่อนเก่า

เจออาจารย์

โดยรวมแล้วเทอมนี้ใช้เวลาคุ้มใช้ได้เลยเนอะๆ

Posted in: Uncategorized